โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก

ครอบครัว บ้าน โรงเรียน และชุมชน

ของเด็กขาดโอกาส

 

เรื่องราวของความตั้งใจ

ประเทศไทยมีเด็กยากจนและเด็กถูกทอดทิ้งเป็นจำนวนมาก พวกเขาไม่ได้รับการศึกษา ไม่มีครอบครัว ไม่มีคนที่รักและเอาใจใส่ คงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าวันหนึ่งพวกเขาเติบโตขึ้นกลายเป็นคนก้าวร้าว ไม่สนใจกฎกติกาของสังคม และเป็นปัญหาของสังคม

โรงเรียนหมู่บ้านเด็กก่อตั้งขึ้นเพื่อรับเลี้ยงดูเด็กเหล่านี้ ด้วยความตั้งใจมั่นว่าจะเป็นบ้าน เป็นครอบครัว เป็นโรงเรียน เป็นที่พักพิงและแหล่งบ่มเพาะให้กับพวกเขา ได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพ เป็นอนาคตของสังคมไทย

โรงเรียนของเด็ก ๆ

ชุมชนโรงเรียนหมู่บ้านเด็กก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ ที่บนเขาสูงริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยท่านศาสตราจารย์นายแพทย์เสม พริ้งพวงแก้ว ท่านศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี นายพิภพ ธงไชย และนางรัชนี ธงไชย ให้เป็นบ้านหลังใหม่ของเด็กยากจน

บ้านหลังใหม่ของเด็ก ๆ ตั้งอยู่ในป่า ที่กันดารห่างไกลผู้คน เพราะด้วยความที่งบประมาณมีไม่มากนัก ทำให้การดูแลเด็ก ๆ ในช่วงแรก ๆ เป็นไปอย่างค่อนข้างยากลำบาก

ต่อมาคุณกระแสร์ ภังคานนท์ ผู้ใหญ่ใจบุญ และครอบครัวของท่าน ได้เมตตาให้ใช้ที่ดินของมูลนิธิจินดา-อิ่ม-จำเรียง ภังคานนท์ของท่าน เป็นบ้านและโรงเรียนแห่งใหม่ของเด็ก ๆ  โดยท่านยังให้ความช่วยเหลือเรื่องการก่อสร้างอีกด้วย บ้านใหม่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ติดถนนใหญ่สายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ ทำให้ชีวิตของชาวหมู่บ้านเด็กสะดวกมากขึ้น

และที่สำคัญ บ้านหลังใหม่ยังทำให้ผู้ใหญ่ใจบุญที่อยากช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือเด็ก ๆ สามารถเข้ามาเยี่ยมและช่วยเหลือเด็ก ๆ ได้มากขึ้น

ปัจจุบันคุณพ่อกระแสร์และคุณแม่ออย (พ.อ.หญิงศรวณีย์ ภังคานนท์) ได้จากเด็ก ๆ ไปแล้ว แต่เด็ก ๆ ทุกคนจะยังรำลึกถึงบุญคุณของพวกท่านตลอดไป


เด็ก ๆ ของเรามาจากไหน

เด็ก ๆ โรงเรียนหมู่บ้านเด็กมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน บางคนไม่มีครอบครัว บางคนพ่อแม่แยกทางกัน บางคนพ่อแม่ติดยาเสพติด บางคนพ่อแม่เป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ เด็ก ๆ ที่นี่มาจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย


เราดูแลเด็ก ๆ อย่างไร

เนื่องจากเด็ก ๆ ของเรามาจากครอบครัวยากจนที่ไม่มีความพร้อม พ่อแม่ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเลี้ยงดู ไม่ได้รับโภชนาการที่ดี ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เด็กบางคนถูกใช้ความรุนแรง บางคนถูกล่วงละเมิด

เด็ก ๆ ของเราส่วนใหญ่จึงมีปัญหาด้านสุขภาพ มีสุขภาพจิตที่ไม่สมบูรณ์ มีพัฒนาการช้ากว่าวัย มีอยู่กว่าครึ่งที่เป็นเด็กพิเศษ เช่น เด็กออทิสติก เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำกว่าวัย เด็กที่มีปัญหาด้านการเรียนรู้ (LD) เป็นต้น

ผู้ใหญ่ที่นี่ต้องเป็นพ่อแม่ของเด็ก ๆ  เป็นครู เป็นพี่ เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าพวกเขามีครอบครัว มีตัวตน และเป็นที่รัก พวกเขาไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในโลกนี้ ไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ

การเรียนการสอน

โรงเรียนหมู่บ้านเด็กจัดการการเรียนให้กับเด็กตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม และมัธยมให้กับเด็ก ๆ  และยังส่งเด็กให้ได้รับการศึกษาทั้งในด้านวิชาชีพในสถาบันระดับอาชีวศึกษาและระดับปริญญาตรี เพื่อให้เด็ก ๆ มีต้นทุนชีวิตที่ดีที่จะก้าวเดินต่อไป

การเรียนการสอนได้มีการปรับให้เหมาะสมกับเด็ก ๆ แต่ละคน โดยเฉพาะเด็กที่มีพัฒนาการแตกต่างกันและเด็กพิเศษ


ซัมเมอร์ฮิลกับการดูแลจิตใจของเด็ก

การมีจิตใจที่ดี เป็นพื้นฐานสำคัญของมนุษย์ เด็กที่มีความสุข มีจิตใจที่ดี จะพร้อมช่วยเหลือคนอื่น พร้อมช่วยเหลือสังคม เด็กที่ไม่มีความสุข จะกลายเป็นคนก้าวร้าว ขาดเมตตาต่อผู้อื่น

เอ.เอส. นีล เป็นนักจิตวิทยาที่สนใจเรื่องเด็ก และได้ก่อตั้งโรงเรียนซัมเมอร์ฮิลขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เป็นโรงเรียนกิน-นอน และได้ใช้ความรู้ด้านจิตวิทยาและอุดมคติเรื่องเสรีภาพและการปกครองตนเองกับเด็ก ๆ  นีลได้นำเสนอความคิดเรื่องการเลี้ยงดูเด็กที่ถือว่านำสมัยมากในยุคสมัยนั้น นีลยังเชี่ยวชาญการใช้จิตวิทยาในการฟื้นฟูเด็กที่มีปมในจิตใจ

สำหรับนีล เด็กมีธรรมชาติที่ดีงาม แต่การเลี้ยงดูที่ผิดของพ่อแม่ สร้างปมในใจให้กับเด็ก เด็กควรได้รับเสรีภาพให้เติบโตในวิถีของเขาเอง โดยมีการแทรกแซงจากผู้ใหญ่ให้น้อยที่สุด เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

เด็กของหมู่บ้านเด็กก็มีปมที่มาจากครอบครัวเดิมเช่นกัน เราจึงให้อิสระแก่เด็กในการแสดงตัวตนของเขาออกมา เพื่อค้นหาความคับข้องใจของเด็ก และหาวิธีคลี่คลายความคับข้องใจหรือปมของเด็ก การคลายปมจะทำให้เด็กรู้สึกตัวเองมีคุณค่า เด็กจะมีนับถือตนเอง และจะพัฒนาไปสู่การเคารพต่อผู้อื่นในเวลาต่อมา


พัฒนาการเด็ก

เด็กส่วนใหญ่ของโรงเรียนหมู่บ้านเด็กมีพัฒนาการช้ากว่าวัย ซึ่งหากปล่อยไปเรื่อย ๆ จะกระทบไปถึงการพัฒนาสติปัญญา อารมณ์-จิตใจ ทักษะทางร่างกาย ทักษะชีวิต และทางสังคม ดังนั้นเด็กที่มีอายุ ๔ – ๖ ขวบจะได้รับการประเมินพัฒนาการทุก ๖ เดือน และเด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่าวัยจะได้รับการกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ

ส่วนเด็กที่มีอายุเกิน ๖ ขวบขึ้นไป จะได้รับการประเมินระดับสติปัญญาหรือ IQ  เด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำกว่าวัย จะได้รับการจัดกระบวนการและการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการพัฒนาสติปัญญา


 
เด็กพิเศษ

โรงเรียนหมู่บ้านเด็กมีเด็กพิเศษ ๗๗ คน มีทั้งเด็กออทิสติก ดาวน์ซินโดรม สมาธิสั้น และเด็กที่มีสติปัญญาช้ากว่าวัย ซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โรงเรียนหมู่บ้านเด็กได้จัดกระบวนการประเมินเด็กพิเศษให้กับเด็กที่ถูกสังเกตว่าอาจจะเป็นเด็กพิเศษ และออกแบบกิจกรรมฟื้นฟูพัฒนาการให้กับเด็กกลุ่มนี้เป็นกรณีพิเศษโดยคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กพิเศษ

การจัดห้องเรียนและการเรียนการสอนก็เช่นกัน จะได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับเด็กทั่วไปและเด็กพิเศษ มีการวางแผนการเรียนแบบรายบุคคลหรือ IEP ให้กับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ รวมทั้งพาเด็กไปรับการบำบัดและฟื้นฟูจากผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว และภาควิชากิจกรรมบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

ในกรณีเด็กพิเศษที่ไม่สามารถเรียนวิชาการในระดับสูงกว่ามัธยมได้ โรงเรียนหมู่บ้านเด็กได้จัดเตรียมวิชาชีพที่เหมาะสมกับพวกเขา และติดตามช่วยเหลือในการปรับตัวในการทำงาน มีการประสานงานกับนายจ้างเพื่อให้เข้าใจเด็ก ๆ เหล่านี้

ด้วยการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง เด็ก ๆ กลุ่มนี้จึงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

เราอยากให้เด็กของเราเป็นแบบไหน

เราอยากให้เด็ก ๆ เติบโตไปมีชีวิตที่ดี ได้รับการศึกษาที่ดี มีอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ มีรายได้ที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว รวมทั้งพ่อแม่ของพวกเขาได้ เราอยากให้เด็กเป็นอะไรก็ได้อย่างที่พวกเขาพวกเขาอยากเป็น เราจึงจัดการศึกษา จัดการเลี้ยงดู และจัดสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิต ที่เกื้อหนุนให้พวกเขาเจริญเติบโตและพัฒนาตัวเอง ไปสู่เป้าหมายที่ดีงามของชีวิตที่พวกเขาใฝ่ฝัน

ที่สำคัญ เราอยากให้พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีเมตตาจิต พร้อมช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและขาดโอกาส มีสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และมีความเคารพและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น รวมทั้งสรรพชีวิตอื่น ๆ
และเราอยากให้เด็กพิเศษของเรา สามารถดำเนินชีวิตได้เช่นคนทั่ว ๆ ไป
 โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ ณ ริมแม่น้ำแควน้อย เลขที่ ๓๑๖ หมู่ที่ ๓ ตําบลท่าเสา อําเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ให้เปิดสอนได้ถึงระดับ ป.๑-ป.๖ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๓ เลขที่ อนุญาต. กจ.๑/๒๕๒๓

  ได้ย้ายมาอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ตําบลวังดัง อําเภอเมือง จังหวัด กาญจนบุรี บนเนื้อที่ ๒๐๐ ไร่ โดยมูลนิธิอินดา อิ่มจําเรียง ภังคานนท์ บริจาค ๑๕๑ ไร่ และมูลนิธิเด็กเป็นผู้บริจาคที่ดินอีก ๔๙ ไร่ พร้อมอาคาร และ บ้านพัก เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘

 โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก เป็นบ้านและโรงเรียนสําหรับเด็กด้อยโอกาส เช่น เด้กที่ถูกทารุณกรรม , เด็กกําพร้า , ถูกทอดทิ้ง , เด็กที่ครอบครัวแตกแยกและยากจน มาอยู่ประจํา กินนอนและรับการศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น มี ศ.นพ. ประเวศ วะสี ประธานกรรมการมูลนิธิเด็ก ดํารงตําแหน่งเจ้าของโรงเรียนในนามมูลนิธิเด็ก มีนายพิภพ ธงไชย เป็นผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ นางรัชนี ธงไชย เป็นผู้อํานวยการ ชุมชนแห่งนี้สามารถรับเด็กได้สูงสุดจํานวน ๒๕o คน

เลี้ยงอาหาร

  ขอเชิญชวนผู้บริจาคทุกท่านสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ด้วยการเลี้ยงอาหารให้กับเด็ก ๆ ด้อยโอกาส ตามโครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิเด็ก อาหารทุกจาน ทุกมื้อ ที่ท่านได้แบ่งปันให้กับเด็ก ๆ กลุ่มนี้ พวกเขาจะได้รับสารอาหารที่มีคุณค่า ถูกต้องตามหลักโภชนาการ อันเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสมอง เพื่อให้พวกเขาได้เติบโตอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง และเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

 

  หากท่านมีความประสงค์จองเลี้ยงอาหารเด็ก ติดต่อ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
โทร 089-410-4427, 089-410-4429, 034-540900 ถึง 1 ทุกว้นไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่ 09.00 17.00 น. หรือติดต่อมูลนิธิเด็ก โทร 02-814-148 1 ถึง 7 ไนวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่ 09.00 - 17.00 น.

อุปการะเด็ก

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเด็กด้อยโอกาส
โดยการบริจาคเงินเพื่ออุปการะเด็กกับมูลนิธิเด็ก
แจ้งรับอุปการะเด็กเป็นงวดๆ ละ ๖ เดือน โดยกรอกแบบฟอร์มแจ้งความจํานง
ส่งมาให้ทางมูลนิธิเด็กทราบ ทั้งในกรณีที่บอกอุปการะเด็กครั้งแรก และครั้งต่อๆ ไป
 

 
เมื่อท่านแจ้งความจํานงบอกรับอุปการะเด็กครั้งแรก
ทางมูลนิธิเด็กจะจัดส่ง ประวัติพร้อมรูปถ่าย ไปให้ท่านโดยเร็วที่สุด
หลังจากท่านได้รับประวัติเด็กแล้ว อีก ๕ เดือนต่อมา
ทางมูลนิธิเด็กจะจัดส่งรายงานความก้าวหน้า พร้อมรูปถ่ายของเด็กคนที่ท่านอุปการะไปให้
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะอุปการะเด็กต่อ ท่านสามารถแจ้งความจํานงมาที่มูลนิธิเด็กได้
หากเด็กคนที่ท่านอุปการะอยู่นั้น พ้นจากความดูแลของเรา
ทางมูลนิธิเด็กจะแจ้งให้ท่านทราบพร้อมกับส่งประวัติเด็กคนใหม่ไปแทน
เพื่อให้ท่านพิจารณาและตัดสินใจว่าจะบอกรับอุปการะในงวดต่อไปหรือไม่
ในกรณีของเด็กที่อยู่ในความดูแลของโรงเรียนหมู่บ้านเด็กและโรงเรียนอนุบาลฯ
เด็กคนหนึ่งๆ จะต้องมีผู้อุปการะรายอื่นๆ ร่วมด้วย 
เพื่อให้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายของเด็กแต่ละคนที่มูลนิธิเด็กรับภาระอยู่


และท่านสามารถไปเยี่ยมเด็กได้ แต่เด็กอาจจะไม่คุ้นเคยและแสดงอาการสนิทสนมด้วย
นอกเสียจากว่าก่อนหน้านี้ ท่านได้เขียนจดหมาย
 เพื่อให้เด็กทําความรู้จักอยู่สม่ําเสมอ ความเป็นกันเองย่อมเกิดขึ้น
แน่นอนว่าถ้าท่านไปเยี่ยมเด็ก กรุณาอย่าถามเรื่องเก่าๆ ที่เป็นปมด้อยของเด็ก
เพราะหลายเรื่องเด็กอยากจะลืมเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่


ทางเราต้องขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง
ที่ร่วมกันแบ่งปันเพื่อดูแลเด็กด้อยโอกาส ให้เติบโต งดงาม ตามวัย
จนเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทยต่อไป
 
โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
16/1 ม.2 ถ.ลาดหญ้า-ศรีสวัสดิ์ ต.วังด้ง
อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 71190
โทร.089-410-4427, 089-410-4429, 034-540900 ถึง 1
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้